สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน (2 ก.ย. 68 เวลา 11.00 น.) ได้รับผลกระทบรวม 10 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก นครพนม หนองบัวลำภู เลย และยะลา รวม 22 สายทาง สัญจรผ่านได้ 14 สายทาง และสัญจรผ่านไม่ได้ 8 สายทาง ซึ่งสายทางที่ไม่สามารถสัญจรผ่านได้มีดังนี้
1. ถนนทางหลวงชนบทสาย มส.4009 แยก ทล. 1263 (กม.ที่ 12+100) – บ้านแม่จ๋า อ.ขุนยวม, เมือง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำหลาก
2. พร.001 สะพานข้ามแม่น้ำยม อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ กม.ที่ 0+485 – 1+185 น้ำกัดเซาะคอสะพานขาด
3. มส.014 สะพานบ้านป่าปุ๊ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน กม.ที่ 0+000 – 0+000 สะพานชำรุดเสียหาย
4. อต.004 สะพานบ้านวังปรากฏ อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ กม.ที่ 0+000 – 0+100 สะพานชำรุดเสียหาย
5. ถนนทางหลวงชนบทสาย พล.2005 แยก ทล.11 (กม.ที่ 25+100) – บ้านท่าหมื่นราม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก กม.ที่ 14+900 – 15+500 น้ำหลาก
6. ถนนทางหลวงชนบทสาย พล.4026 แยก ทล.1115 (กม.ที่ 27+000) – บ้านไทรย้อย อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก กม.ที่ 29+300 – 30+000 น้ำหลาก
7. ถนนผังเมืองรวมเมืองหนองบัวลำภู สาย ก นภ.3037 อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู กม.ที่ 4+250 – 5+100
8. ลย.012 สะพานข้ามแม่น้ำเลย อ.วังสะพุง จ.เลย กม.ที่ 0+350 – 0+450 สะพานชำรุดเสียหาย
ทั้งนี้ สำหรับในพื้นที่ที่ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ทช. ได้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายบอกระดับน้ำ และปักเสาตามแนวเขตทาง เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ยังคงติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิดในพื้นที่จังหวัดที่เป็นกลุ่มเสี่ยง พร้อมจัดชุดลาดตระเวน และเตรียมความพร้อมในเรื่องอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องจักรในการเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันทีเมื่อเกิดเหตุ โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่หรือสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146