จากนั้น อธิบดีฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยบนถนนทางหลวงชนบทสาย นน.4020 แยก ทล.1169 – บ้านห้วยสอน อำเภอภูเพียง, เวียงสา จังหวัดน่าน ซึ่งปัจจุบันสามารถเปิดเส้นทางเพื่อให้ประชาชนใช้สัญจรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่ผ่านมาสายทางดังกล่าวได้รับผลกระทบจากปริมาณฝนที่ตกหนักสะสม จนประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถใช้ในการสัญจรได้ อธิบดีฯ จึงได้เน้นย้ำแก่แขวงทางหลวงชนบทน่าน และสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 17 (เชียงราย) ให้ตรวจสอบความเสียหายของสายทางอย่างละเอียด เป็นการป้องกันความเสียหายของผิวทาง หากพบให้เร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน พร้อมตรวจสอบระบบไฟฟ้าแสงสว่างอย่างถี่ถ้วน เพื่อป้องกันความเสียหายของระบบไฟฟ้า และเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่
พร้อมกันนี้ อธิบดีฯ ได้ลงพื้นที่บริเวณสะพานดู่ใต้พัฒนา (สาย นน.007) อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน เพื่อติดตามผลกระทบหลังเกิดเหตุอุทกภัย ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ซึ่งนอกจากปริมาณน้ำที่ท่วมปิดทับการสัญจรแล้ว สายทางดังกล่าวยังได้รับผลกระทบจากการหักโค่นของเสาไฟฟ้าและต้นไม้ รวมถึงผลกระทบจากเศษโคลน เศษกิ่งไม้ที่ติดค้าง อธิบดีฯ จึงได้สั่งการให้ระดมเจ้าหน้าที่เคลียร์สายทางให้เรียบร้อย พร้อมแก่การเปิดใช้งาน รวมถึงสำรวจความเสียหายให้ละเอียดครบถ้วน ทั้งตอม่อสะพาน ราวสะพาน ผิวจราจร และไฟฟ้าส่องสว่าง หากพบให้เร่งดำเนินการซ่อมแซมปรับปรุงโดยทันที เพื่อให้เกิดความสะดวก ปลอดภัยต่อการเดินทางของประชาชน และได้มอบถุงยังชีพให้กับประชาชนในพื้นที่ เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และสร้างขวัญกำลังใจที่ดีให้กับประชาชนอีกด้วย
สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้มี นายวรวิทย์ ขัตติโย ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 17 และนายปิ่นทอง ถุงจันทร์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทน่าน นำลงพื้นที่ พร้อมรายงานสถานการณ์อุทกภัย และการปฏิบัติงานตลอดช่วงที่ผ่านมา โดยมีผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบท (ผอ.ขทช.) ในสังกัดสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 17 (เชียงราย) ได้แก่ ผอ.ขทช.เชียงราย ผอ.ขทช.พะเยา ผอ.ขทช.แพร่ และคณะ ร่วมลงพื้นที่ ณ จังหวัดน่าน