การก่อสร้างเร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2570 เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ
จะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในตัวเมือง เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมขนส่งรอบตัวเมือง ควบคู่ไปกับ
การรองรับการเจริญเติบโตของเมืองในอนาคต ทั้งยังเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในจังหวัด
ได้อย่างเป็นรูปธรรมอีกทางหนึ่งด้วย โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ตอน ประกอบด้วย
ตอนที่ 1 ปัจจุบันมีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 23 เร็วกว่าแผน ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงานในส่วนของโครงสร้างทาง งานถมคันทาง ซึ่งโครงการฯ มีจุดเริ่มต้นโครงการ กม.ที่ 0+000 เชื่อมต่อกับ
ทล.408 (กม.ที่ 7+000 – 7+600) และจุดสิ้นสุดโครงการ เชื่อมต่อกับถนนทางหลวงชนบทสาย นศ.4039
รวมระยะทาง 5.500 กิโลเมตร ดำเนินการก่อสร้างเป็นผิวจราจรแบบแอสฟัลต์ติกคอนกรีต ขนาด 4 – 6
ช่องจราจร มีเกาะกลางถนน พร้อมก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก 3 แห่ง มีระบบระบายน้ำ ไฟฟ้าแสงสว่าง การติดตั้งเครื่องหมายจราจร สิ่งอำนวยความปลอดภัยตลอดเส้นทาง
ตอนที่ 2 ปัจจุบันมีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 30 เร็วกว่าแผน ขณะนี้อยู่ระหว่างงานถมคันทาง และก่อสร้างตอม่อสะพานข้ามคลองชลประทานและสะพานข้ามทางแยกต่างระดับ ซึ่งโครงการฯ มีจุดเริ่มต้นโครงการ กม.ที่ 5+500 เชื่อมต่อจากถนนสายส่วนต่อขยายถนนเฉลิมพระเกียรติ ตอนที่ 1 จุดตัดถนน
ทางหลวงชนบทสาย นศ.4039 และมีจุดสิ้นสุดโครงการฯ (กม.ที่ 10+780) เชื่อมต่อกับ ทล.4013 (ตอน
อ.เมืองนครศรีธรรมราช – อ.ปากพนัง) และเชื่อมต่อกับถนนเฉลิมพระเกียรติ รวมระยะทาง 5.280 กิโลเมตร ดำเนินการก่อสร้างเป็นผิวจราจรแบบแอสฟัลต์ติกคอนกรีต ขนาด 4 ช่องจราจร มีเกาะกลางถนน
พร้อมก่อสร้างสะพานข้ามคลอง 2 แห่ง สะพานข้ามทางแยก 1 แห่ง มีระบบระบายน้ำ ไฟฟ้าแสงสว่าง
การติดตั้งเครื่องหมายจราจร สิ่งอำนวยความปลอดภัยตลอดเส้นทาง
อธิบดีฯ กล่าวปิดท้ายว่า นอกจากในเรื่องมาตรฐานงานก่อสร้างแล้ว ยังได้เน้นย้ำไปถึงเรื่อง
ความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้าง การติดตั้งป้ายเตือนให้ประชาชนสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน
การป้องกันและรับมือกับฝุ่น PM2.5 โดยให้เพิ่มรอบในการรดน้ำ การจัดการกับเศษวัสดุในโครงการ รวมไปถึงการตรวจสอบดูแลเครื่องจักรกล และยานพาหนะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดควันดำในบริเวณโครงการอีกด้วย