กรมทางหลวงชนบทเดินหน้าโครงการก่อสร้างทางลอดและปรับปรุงถนนบริเวณทางแยกศูนย์ราชการ (ถนนสาย ชร.1023) แก้ปัญหาจราจร รองรับเศรษฐกิจเมืองเชียงรายและภาคเหนือตอนบนในระยะยาว
.
เชียงรายเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ด้วยพรมแดนที่ติดกับทั้งประเทศพม่าและลาว จึงกลายเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้า และความมั่นคงของภูมิภานอกจากนี้ เชียงรายยังเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ และเป็นต้นทางของเส้นทางคมนาคม R3A ที่เชื่อมต่อกับจีนตอนใต้เป็นเส้นทางสำคัญในด้านการค้าชายแดน การขนส่ง เชื่อมโยงกับประเทศในกลุ่มอาเซียน จากทำเลที่ตั้งที่ได้เปรียบบวกกับโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังขยายตัว เชียงรายจึงมีบทบาทสำคัญ ในการเชื่อมโยงประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาคเหนือให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
.
การมีสนามบินนานาชาติแม่ฟ้าหลวง ที่รองรับเที่ยวบินจากต่างประเทศ โดยมีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวสูงสุดถึง 3 ล้านคนต่อปีและมีแผนพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ในการรองรับผู้โดยสารเป็น 6 ล้านคนต่อปีภายในปี 2571 ทำให้เชียงราย มีศักยภาพในฐานะ “เมืองศูนย์กลางการค้าชายแดน การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและการคมนาคมระหว่างประเทศ”
.
จราจรติดขัด: ปัญหาเรื้อรังที่ต้องได้รับการแก้ไข อย่างไรก็ตามการเติบโตอย่างรวดเร็วของเมืองและปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นได้นำมาซึ่งปัญหาคอขวดบริเวณทางแยกศูนย์ราชการบนถนนสาย ชร.1023 ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมต่อระหว่างสนามบินและ ตัวเมืองเชียงราย ปริมาณรถเฉลี่ยมากกว่า 30,000 คันต่อวัน ส่งผลให้การเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วนเกิดความล่าช้า และลดทอนประสิทธิภาพการขนส่งทั้งของผู้โดยสารและระบบโลจิสติกส์โดยรวมเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้เดินหน้าโครงการก่อสร้างทางลอดและปรับปรุงถนนบริเวณทางแยกศูนย์ราชการ ชร.1023 โครงการนี้ประกอบด้วยการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดขนาด 4 ช่องจราจร (ไป-กลับ) ความยาว 425.50 เมตร พร้อมขยายสะพานข้ามแม่น้ำกกให้มีความกว้างเพิ่มขึ้นตลอดแนวสะพาน ระยะทาง 410 เมตร นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงถนนสา ชร.1023 รวมถึงติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่างและสาธารณูปโภคตลอดแนวเส้นทาง รวมระยะทางทั้งสิ้น 1.635 กิโลเมตร
.
โครงการนี้ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการแก้ไขปัญหาจราจรเท่านั้น แต่ยังออกแบบเพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองเชียงรายในระยะยาว โดยการเชื่อมต่อถนนสายหลัก และเสริมศักยภาพด้านโลจิสติกส์และการพัฒนาเมือง
ในอนาคต คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในปี 2570
.
นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมทางหลวงชนบทได้เริ่มเข้าพื้นที่เพื่อเตรียมดำเนินโครงการก่อสร้างทางลอดและปรับปรุงถนนบริเวณทางแยกศูนย์ราชการ โดยอยู่ในระหว่างการทำทางเบี่ยงและปิดช่องจราจรบางส่วนเพื่อเข้าสู่กระบวนการก่อสร้างเต็มรูปแบบ คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในปี 2570
.
“โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ให้สามารถรองรับการเดินทางที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อแก้ไขปัญหาคอขวดด้านการจราจรที่ประชาชนในพื้นที่ต้องเผชิญมายาวนาน” นายมนตรีกล่าว ในระหว่างการก่อสร้าง กรมทางหลวงชนบทได้จัดเตรียมมาตรการอำนวยความปลอดภัยต่าง ๆ พร้อมรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนทราบเป็นระยะ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และประชาชนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความเปลี่ยนแปลงที่จะยกระดับเมืองเชียงรายให้เชื่อมต่อกับอนาคตได้อย่างมั่นคง
โครงการก่อสร้างทางลอดและปรับปรุงถนนบริเวณทางแยกศูนย์ราชการเชียงรายจึงเป็นมากกว่าการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน แต่เป็นการวางรากฐานเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของเมืองเชียงรายและภูมิภาคเหนือ
ตอนบนในอนาคต
.
ผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและการพัฒนาเมือง เมื่อโครงการเสร็จสิ้นจะส่งผลเชิงบวกในหลายมิติ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ โดยคาดว่าจะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทาง เพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงสนามบิน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและนักท่องเที่ยว ในด้านเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้าระหว่างพื้นที่และศูนย์กลางการค้าในเขตเมืองจะมีความคล่องตัวมากขึ้น ลดต้นทุนโลจิสติกส์ให้กับภาคธุรกิจ พร้อมส่งเสริมบทบาทของเชียงรายในฐานะจุดยุทธศาสตร์ด้านการค้าชายแดน ในด้านการท่องเที่ยว การเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความพึงพอใจ ของนักท่องเที่ยว โครงการนี้จะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางจากสนามบินเข้าสู่เมืองเชียงราย ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาในการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเครียดและความไม่สะดวกสบายที่อาจเกิดขึ้นจากการจราจรติดขัด
.
การมีส่วนร่วมของประชาชน และแผนการสื่อสารต่อเนื่อง
ในระหว่างการก่อสร้าง กรมทางหลวงชนบทได้จัดเตรียมมาตรการอำนวยความปลอดภัยต่าง ๆ พร้อมรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนทราบเป็นระยะ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และประชาชนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความเปลี่ยนแปลงที่จะยกระดับเมืองเชียงรายให้เชื่อมต่อกับอนาคตได้อย่างมั่นคง
.
เชียงรายเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ด้วยพรมแดนที่ติดกับทั้งประเทศพม่าและลาว จึงกลายเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้า และความมั่นคงของภูมิภานอกจากนี้ เชียงรายยังเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ และเป็นต้นทางของเส้นทางคมนาคม R3A ที่เชื่อมต่อกับจีนตอนใต้เป็นเส้นทางสำคัญในด้านการค้าชายแดน การขนส่ง เชื่อมโยงกับประเทศในกลุ่มอาเซียน จากทำเลที่ตั้งที่ได้เปรียบบวกกับโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังขยายตัว เชียงรายจึงมีบทบาทสำคัญ ในการเชื่อมโยงประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาคเหนือให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
.
การมีสนามบินนานาชาติแม่ฟ้าหลวง ที่รองรับเที่ยวบินจากต่างประเทศ โดยมีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวสูงสุดถึง 3 ล้านคนต่อปีและมีแผนพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ในการรองรับผู้โดยสารเป็น 6 ล้านคนต่อปีภายในปี 2571 ทำให้เชียงราย มีศักยภาพในฐานะ “เมืองศูนย์กลางการค้าชายแดน การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและการคมนาคมระหว่างประเทศ”
.
จราจรติดขัด: ปัญหาเรื้อรังที่ต้องได้รับการแก้ไข อย่างไรก็ตามการเติบโตอย่างรวดเร็วของเมืองและปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นได้นำมาซึ่งปัญหาคอขวดบริเวณทางแยกศูนย์ราชการบนถนนสาย ชร.1023 ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมต่อระหว่างสนามบินและ ตัวเมืองเชียงราย ปริมาณรถเฉลี่ยมากกว่า 30,000 คันต่อวัน ส่งผลให้การเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วนเกิดความล่าช้า และลดทอนประสิทธิภาพการขนส่งทั้งของผู้โดยสารและระบบโลจิสติกส์โดยรวมเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้เดินหน้าโครงการก่อสร้างทางลอดและปรับปรุงถนนบริเวณทางแยกศูนย์ราชการ ชร.1023 โครงการนี้ประกอบด้วยการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดขนาด 4 ช่องจราจร (ไป-กลับ) ความยาว 425.50 เมตร พร้อมขยายสะพานข้ามแม่น้ำกกให้มีความกว้างเพิ่มขึ้นตลอดแนวสะพาน ระยะทาง 410 เมตร นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงถนนสา ชร.1023 รวมถึงติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่างและสาธารณูปโภคตลอดแนวเส้นทาง รวมระยะทางทั้งสิ้น 1.635 กิโลเมตร
.
โครงการนี้ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการแก้ไขปัญหาจราจรเท่านั้น แต่ยังออกแบบเพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองเชียงรายในระยะยาว โดยการเชื่อมต่อถนนสายหลัก และเสริมศักยภาพด้านโลจิสติกส์และการพัฒนาเมือง
ในอนาคต คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในปี 2570
.
นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมทางหลวงชนบทได้เริ่มเข้าพื้นที่เพื่อเตรียมดำเนินโครงการก่อสร้างทางลอดและปรับปรุงถนนบริเวณทางแยกศูนย์ราชการ โดยอยู่ในระหว่างการทำทางเบี่ยงและปิดช่องจราจรบางส่วนเพื่อเข้าสู่กระบวนการก่อสร้างเต็มรูปแบบ คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในปี 2570
.
“โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ให้สามารถรองรับการเดินทางที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อแก้ไขปัญหาคอขวดด้านการจราจรที่ประชาชนในพื้นที่ต้องเผชิญมายาวนาน” นายมนตรีกล่าว ในระหว่างการก่อสร้าง กรมทางหลวงชนบทได้จัดเตรียมมาตรการอำนวยความปลอดภัยต่าง ๆ พร้อมรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนทราบเป็นระยะ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และประชาชนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความเปลี่ยนแปลงที่จะยกระดับเมืองเชียงรายให้เชื่อมต่อกับอนาคตได้อย่างมั่นคง
โครงการก่อสร้างทางลอดและปรับปรุงถนนบริเวณทางแยกศูนย์ราชการเชียงรายจึงเป็นมากกว่าการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน แต่เป็นการวางรากฐานเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของเมืองเชียงรายและภูมิภาคเหนือ
ตอนบนในอนาคต
.
ผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและการพัฒนาเมือง เมื่อโครงการเสร็จสิ้นจะส่งผลเชิงบวกในหลายมิติ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ โดยคาดว่าจะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทาง เพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงสนามบิน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและนักท่องเที่ยว ในด้านเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้าระหว่างพื้นที่และศูนย์กลางการค้าในเขตเมืองจะมีความคล่องตัวมากขึ้น ลดต้นทุนโลจิสติกส์ให้กับภาคธุรกิจ พร้อมส่งเสริมบทบาทของเชียงรายในฐานะจุดยุทธศาสตร์ด้านการค้าชายแดน ในด้านการท่องเที่ยว การเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความพึงพอใจ ของนักท่องเที่ยว โครงการนี้จะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางจากสนามบินเข้าสู่เมืองเชียงราย ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาในการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเครียดและความไม่สะดวกสบายที่อาจเกิดขึ้นจากการจราจรติดขัด
.
การมีส่วนร่วมของประชาชน และแผนการสื่อสารต่อเนื่อง
ในระหว่างการก่อสร้าง กรมทางหลวงชนบทได้จัดเตรียมมาตรการอำนวยความปลอดภัยต่าง ๆ พร้อมรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนทราบเป็นระยะ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และประชาชนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความเปลี่ยนแปลงที่จะยกระดับเมืองเชียงรายให้เชื่อมต่อกับอนาคตได้อย่างมั่นคง
