กรมทางหลวงชนบท อัปเดตเส้นทางอุทกภัยบนสายทางหลวงชนบท หลังน้ำท่วมผ่านไม่ได้เหลือเพียง 3 แห่ง พร้อมระดมกำลังเร่งฟื้นฟู – ซ่อมแซมสายทางที่ได้รับผลกระทบหลังน้ำลด เพื่อให้ประชาชนกลับมาสัญจรได้อย่างสะดวกปลอดภัยโดยเร็ว

กรมทางหลวงชนบท อัปเดตเส้นทางอุทกภัยบนสายทางหลวงชนบท หลังน้ำท่วมผ่านไม่ได้เหลือเพียง 3 แห่ง พร้อมระดมกำลังเร่งฟื้นฟู – ซ่อมแซมสายทางที่ได้รับผลกระทบหลังน้ำลด เพื่อให้ประชาชนกลับมาสัญจรได้อย่างสะดวกปลอดภัยโดยเร็ว

(8 ธ.ค. 67) นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า หลังจากหลายจังหวัดในพื้นที่ของภาคใต้เผชิญสถานการณ์น้ำท่วมหนักในรอบหลายสิบปี ล่าสุดบางพื้นที่สถานการณ์เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ประชาชนทยอยเดินทางกลับไปสำรวจบ้านและที่อยู่อาศัย เช่นเดียวกับถนนทางหลวงชนบทหลังจากน้ำลดลงในบางพื้นที่ จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักงานทางหลวงชนบท และแขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่เคลียร์สายทางกำจัดสิ่งกีดขวางบนสายทาง พร้อมทั้งเร่งฟื้นฟู ซ่อมแซมสายทางที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาสัญจรได้อย่างสะดวกปลอดภัยโดยเร็ว ทั้งนี้ปัจจุบัน สำนักบำรุงทาง ได้รายงานถึงสถานการณ์ในขณะนี้ (8 ธ.ค. 67 เวลา 10.00 น.) พบถนนทางหลวงชนบทที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ (นครศรีธรรมราช, ปัตตานี, นราธิวาส, พัทลุง, ยะลา) จำนวน 18 สายทาง โดยสามารถสัญจรผ่านได้ 15 สายทาง และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 3 สายทาง โดนมีสายทางที่ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ดังนี้

1. จังหวัดยะลา จำนวน 2 สายทาง

– ถนนสาย ยล.004 สะพานมิตรภาพท่าธง-เกะรอ อำเภอรามัน (ช่วง กม.ที่ 0+251 ถึง 0+271)

– ถนนสาย ยล.6039 ถนนสุขยางค์ – เลี่ยงเมืองเบตง อำเภอเบตง (ช่วง กม.ที่ 5+200 ถึง 5+400)

2. จังหวัดปัตตานี จำนวน 1 สายทาง

– ถนนสาย ปน.6083 บ้านบือราแง – บ้านชะเมา อำเภอทุ่งยางแดง (ช่วง กม.ที่ 0+000 ถึง กม.ที่ 4+606)

ทั้งนี้ ทช. ได้ติดตั้งป้ายเตือน และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังบนสายทางที่ยังได้รับผลกระทบตลอด 24 ชม. เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและอำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชน โดย ทช.จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและรายงานให้ทราบเป็นระยะ ๆ สำหรับประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือหรือแจ้งเหตุอุทกภัย รวมทั้งสอบถามเส้นทาง สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวงชนบทและแขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ หรือได้ที่สายด่วนกรมทางหลวงชนบท โทร. 1146