Menu
home
>>
กรมทางหลวงชนบท ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในภาคใต้ช่วงฤดูฝนอย่างใกล้ชิด พร้อมเฝ้าระวัง ดูแลและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนใช้เส้นทางได้อย่างปลอดภัย
(5 ธ.ค. 67) นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้ติดตามข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งคาดการณ์ว่าในช่วงวันนี้ หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซีย มีแนวโน้มเคลื่อนลงสู่ช่องแคบมะละกา ส่งผลทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมาก จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งในช่วงวันดังกล่าวได้ จึงได้มีความห่วงใยประชาชนที่ใช้เส้นทางในการสัญจร โดยได้กำชับให้สำนักงานทางหลวงชนบท (สทช.) ในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ สทช.ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) สทช.ที่ 12 (สงขลา) สทช.ที่ 14 (กระบี่) และแขวงทางหลวงชนบทในสังกัด จัดเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการติดตั้งป้ายเตือน จัดชุดเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมเฝ้าระวังสายทางในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการเกิดเหตุดินสไลด์หรือคอสะพานชำรุดบนถนนทางหลวงชนบท และให้จัดชุดลาดตระเวนสำรวจพื้นที่เสี่ยงเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถเข้าดำเนินการแก้ไขได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุและให้ผู้ใช้ทางสัญจรได้อย่างสะดวกปลอดภัย
ขณะเดียวกันสำนักบำรุงทาง ได้รายงานสถานการณ์ปัจจุบัน (วันที่ 5 ธ.ค. 67 เวลา 11.00 น.) มีสายทางในความรับผิดชอบของ ทช. ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา พัทลุง และสงขลา สัญจรผ่านไม่ได้ จำนวน 11 สายทาง ดังนี้
1. จังหวัดนราธิวาส จำนวน 2 สายทาง
– ถนนสาย นธ.2021 แยก ทล.42 – บ้านคลอแระ อำเภอบาเจาะ (ช่วง กม.ที่ 5+060 ถึง 5+600)
– ถนนสาย นธ.5027 แยกทางหลวงชนบทสาย นธ.4013 – บ้านโงสะโต อำเภอระแงะ, ศรีสาคร (ช่วง กม.ที่ 18+050 ถึง 18+200)
2. จังหวัดปัตตานี จำนวน 5 สายทาง
– ถนนสาย ปน.2001 แยก ทล.42 – บ้านข่าลิง อำเภอสายบุรี, ทุ่งยางแดง (ช่วง กม.ที่ 3+500 ถึง 3+550)
– ถนนสาย ปน.2003 แยก ทล.43 – บ้านโคกโพธิ์ อำเภอหนองจิก, โคกโพธิ์ (ช่วง กม.ที่ 0+500 ถึง 2+200)
– ถนนสาย ปน.2087 แยก ทล.43 – บ้านกาหยี อำเภอหนองจิก (ช่วง กม.ที่ 0+000 ถึง 1+790)
– ถนนสาย ปน.5090 แยกทางหลวงชนบทสาย ปน.2070 – คลองชลประทาน อำเภอหนองจิก (ช่วง กม.ที่ 0+000 ถึง 1+993)
– ถนนสาย ปน.6083 บ้านบือราแง – บ้านชะเมา อำเภอทุ่งยางแดง (ช่วง กม.ที่ 0+000 ถึง กม.ที่ 4+606)
3. จังหวัดยะลา จำนวน 2 สายทาง
– ถนนสาย ยล.004 สะพานมิตรภาพท่าธง-เกะรอ อำเภอรามัน (ช่วง กม.ที่ 0+251 ถึง 0+271)
– ถนนสาย ยล.6039 ถนนสุขยางค์ – เลี่ยงเมืองเบตง อำเภอเบตง (ช่วง กม.ที่ 5+200 ถึง 5+400)
4. จังหวัดพัทลุง จำนวน 1 สายทาง
– ถนนสาย พท.5050 ถนนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อำเภอควนขนุน, ระโนด (ช่วง กม.ที่ 12+050 ถึง 12+600, กม.ที่ 11+600 ถึง 12+050 และ กม.ที่ 13+500 ถึง 13+575)
5. จังหวัดสงขลา จำนวน 1 สายทาง
– ถนนสาย สข.4052 แยก ทล.406 – บ้านท่าหยี อำเภอควนเนียง (ช่วง กม.ที่ 0+000 ถึง 0+200)
ทั้งนี้ อธิบดีฯ ยังได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานในส่วนภูมิภาค ติดตามรายงานสถานการณ์และลงพื้นที่ดูแลเส้นทางจราจร เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนได้ทันที หากประชาชนต้องการแจ้งเหตุอุทกภัยหรือขอความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ หรือสายด่วน โทร.1146

อื่นๆ

อธิบดีกรมทางหลวงชนบท พร้อมด้วย รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ลงพื้นที่ตรวจราชการถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Thailand Riviera) ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี พร้อมเผยความคืบหน้าการพัฒนาโครงข่ายเส้นทาง เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการเพิ่มศักยภาพถนนสายรองสู่ระดับสากลอย่างยั่งยืน

อธิบดีกรมทางหลวงชนบท พร้อมด้วย รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการปรับปรุงเรขาคณิตของทาง ถนนสาย สส.2021 แยก ทล.35 – ชะอำ (ตอนชะอำ) อ.ท่ายาง, ชะอำ จ.เพชรบุรี

รักษาการวิศวกรใหญ่ (ด้านบำรุงรักษาทางและสะพาน) กรมทางหลวงชนบท ลงพื้นที่ประชุมติดตามการดำเนินงานโครงการบริหารจัดการลำดับชั้นทางหลวง และยกระดับความปลอดภัย ถนนสาย นบ.1002 แยก ทล.9 – บ้านหนองเพรางาย อ.บางบัวทอง, ไทรน้อย จ.นนทบุรี

Skip to content