นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า หลังจากฝนที่ตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ส่งผลให้มีปริมาณน้ำที่สะสมเป็นจำนวนมาก พื้นที่ที่เป็นภูเขาสูงเกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มทับอาคารบ้านเรือน และเส้นทางการจราจร ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดยะลา บริเวณถนนทางหลวงชนบทสาย ยล.3004 แยก ทล.410 – บ้านปิยะมิตร 1 อำเภอเบตง จึงได้สั่งการไปยังสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 12 (สงขลา) และแขวงทางหลวงชนบทยะลาให้ลงสำรวจสายทาง พร้อมเร่งดำเนินการแก้ไข เพื่อเปิดเส้นทางให้ประชาชนสัญจรได้โดยเร็ว ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการนำเครื่องมือ เครื่องจักรลงพื้นที่เพื่อเคลียร์สายทางให้ประชาชนกลับมาสัญจรได้เป็นที่เรียบร้อย
อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย น้ำท่วมขัง น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ถนนทางหลวงชนบทได้รับผลกระทบ สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 10 (เชียงใหม่) แขวงทางหลวงชนบทเชียงใหม่ ได้ดำเนินการลงพื้นที่เพื่อติดตั้งป้ายเตือน ป้ายทางเลี่ยง อุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย พร้อมสัญญาณไฟ เพื่อให้ประชาชนรับทราบ และหลีกเลี่ยงการสัญจรในเส้นทางดังกล่าว สำหรับพื้นที่ที่ดินโคลนถล่มทับเส้นทางจนไม่สามารถสัญจรผ่านได้ในช่วงที่ผ่านมา ปัจจุบันได้ระดมเครื่องมือ และเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการเคลียร์ในทุกสายทาง และเปิดให้ประชาชนใช้สัญจรด้วยความปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ ถนนทางหลวงชนบทในปัจจุบัน (วันที่ 10 ตุลาคม 67 เวลา 12.00 น.) คงเหลือสายทางที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ และสุโขทัย จำนวน 8 สายทาง สัญจรผ่านไม่ได้ 1 สายทาง สัญจรผ่านได้ 7 สายทาง ดังนี้
สัญจรผ่านไม่ได้ 1 สายทาง
1. ถนนสาย ชม.3003 แยก ทล.108 – บ้านหนองล่อง อำเภอจอมทอง, เวียงหนองล่อง จังหวัดเชียงใหม่ (ช่วง กม.ที่ 2+000 ถึง 2+180)
สัญจรผ่านได้ 7 สายทาง
1. ถนนสาย ชม.6050 ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ – บ้านแม่ซา อำเภอกัลยานิวัฒนา, แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ (ช่วง กม.ที่ 19+000 ถึง 19+050)
2. ถนนสาย ชม.4021 แยก ทล.1349 – บ้านแม่ปะ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ (ช่วง กม.ที่ 3+900 ถึง 3+950 และ 4+225 ถึง 4+400)
3. ถนนสาย ชม.4030 แยก ทล.1095 – อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ (ชาวง กม.ที่ 3+500 ถึง 3+575)
4. ถนนสาย ชม.4051 แยก ทล.1096 – บ้านแม่ขิ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ (ช่วง กม.ที่ 1+200 ถึง 1+260 และ 8+300 ถึง 8+350)
5. ถนนสาย ชม.4067 แยก ทล.1349 – บ้านปางมะกล้วย อำเภอสะเมิง, แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ (ช่วง กม.ที่ 48+000 ถึง 48+050)
6. ถนนสาย ชม.4092 แยก ทล.1095 – น้ำพุร้อนโป่งเดือด อำเภอแม่แตง, สันทราย จังหวัดเชียงใหม่ (ช่วง กม.ที่ 0+150 ถึง 0+200)
7. ถนนสาย สท.4001 แยก ทล.1293 – บ้านหนองกระดิ่ง อำเภอกงไกรลาศ, คีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย (ช่วง กม.ที่ 0+790 ถึง 1+690)
อย่างไรก็ตาม ทช. ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด จัดกำลังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนตามสายทางที่ได้รับผลกระทบ พร้อมเตรียมการ วางแผนเฝ้าระวังสายทางที่อาจเกิดผลกระทบในอนาคต เพื่อช่วยบรรเทาเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งนี้ หากประชาชนพบสายทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบ หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อไปยังสำนักงานทางหลวงชนบท และแขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ได้ทันที หรือสายด่วน กรมทางหลวงชนบท 1146