Menu
home
>>
กรมทางหลวงชนบท เผยสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วน
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า เนื่องจากมีภัยพิบัติจากเชียงรายเป็นต้นมา ทำให้มวลน้ำไหลลงมาสู่แม่น้ำโขง ประกอบกับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งและเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เข้าท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตรของประชาชน รวมถึงทำให้เส้นทางจราจรในจังหวัดดังกล่าวไม่สามารถสัญจรผ่านได้ชั่วคราว ปัจจุบันได้รับรายงานจากสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 15 (อุดรธานี) แขวงทางหลวงชนบทหนองคาย ถึงสายทางที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจำนวน 2 สายทาง ได้แก่ ถนนสาย นค.5027 และสาย นค.019 สะพานห้วยน้ำโมง จึงได้สั่งการให้แขวงทางหลวงชนบทหนองคายติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด โดยติดตั้งป้ายเตือนพร้อมทั้งจัดชุดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้เส้นทาง เร่งบรรจุกระสอบทรายวางเป็นแนวกั้นน้ำ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนให้เดินทางอย่างปลอดภัย จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นายอภิรัฐ กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบัน (วันที่ 16 ก.ย. 67 เวลา 14.00 น.) ได้รับรายงานจากแขวงทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย สัญจรผ่านไม่ได้ใน 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย หนองคาย บึงกาฬ และตาก จำนวน 7 สายทาง ดังนี้
1. สะพาน ชร.007 สะพานพ่อขุนเม็งรายมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย คอสะพานขาด
2. สะพาน ชร.016 สะพานแม่น้ำกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย สะพานขาด
3. ถนนต่อเชื่อมสะพาน สาย ชร.022 สะพานประชาร่วมใจ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย (ช่วง กม.ที่ 1+450 ถึง 2+000)
4. ถนนสาย นค.5027 แยกทางหลวงชนบทสาย นค.3009 (กม.ที่ 2+150) – บ้านสร้างคอม (ตอนหนองคาย) อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 7+525 ถึง 8+850 และ 12+825 ถึง 13+400)
5. ถนนสาย นค.019 สะพานห้วยน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 1+700 ถึง 2+730)
6. ถนนสาย ตก.4014 แยก ทล.1090 (กม.ที่ 15+950) – บ้านพบพระเหนือ อำเภอแม่สอด, พบพระ จังหวัดตาก
7. ถนนสาย บก.3010 แยก ทล.212 – บ้านหนองมุม อำเภอเมือง, ปากคาด จังหวัดบึงกาฬ (ช่วง กม.ที่ 7+000 – 8+000 และ 30+900 – 31+550)
“สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันแขวงทางหลวงชนบทเชียงราย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น และทำการติดตั้งป้ายเตือนห้ามรถผ่านทุกชนิดบริเวณสายทางที่ได้รับผลกระทบ และจะติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมสนับสนุนเจ้าหน้าที่เข้าทำความสะอาดและฟื้นฟูสายทางที่ได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัยหลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย อย่างไรก็ตาม หากประชาชนสอบถามข้อมูลสายทาง หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ หรือสายด่วน กรมทางหลวงชนบท 1146” อธิบดีกรมทางหลวงชนบทกล่าว

อื่นๆ

Skip to content