นายอภิรัฐ กล่าวต่อไปว่า เมื่อโครงการขนาดใหญ่ทั้ง 5 โครงการดำเนินการแล้วเสร็จจะช่วยเชื่อมต่อโครงข่ายการคมนาคมให้มีความสมบูรณ์ ยกระดับการเดินทางให้สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย บรรเทาการจราจรติดขัดภายในตัวเมือง เพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจการค้า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืน พร้อมรองรับการขยายตัวของเมืองในอนาคต ซึ่งใช้งบประมาณดำเนินการรวม 3,877.08 ล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2570 โดยโครงการที่ลงนามสัญญาจ้างในครั้งนี้ จำนวน 5 โครงการ ประกอบด้วย
1. โครงการก่อสร้างถนนเลียบแม่น้ำโขง นาคาวิถี ช่วงสะพานมิตรภาพไทย – ลาว (แห่งที่ 2) – พระธาตุพนม อำเภอเมือง, ธาตุพนม จังหวัดมุกดาหาร, นครพนม ระยะทาง 43.485 กิโลเมตร งบประมาณทั้งสิ้น 614.7 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพโครงข่ายสายทางในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดนครพนม โดยพัฒนาให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวและเส้นทางชมทิวทัศน์ (Scenic Route) เลียบริมฝั่งแม่น้ำโขง สนับสนุนให้เกิดการขยายตัวทางด้านการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ และยุทธศาสตร์การพัฒนาของพื้นที่
2. โครงการก่อสร้างถนนสาย ก ผังเมืองรวมเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว ระยะทาง 12.795 กิโลเมตร งบประมาณทั้งสิ้น 914.5 ล้านบาท เชื่อมโครงข่ายการคมนาคมของจังหวัดสระแก้วให้มีความสมบูรณ์ ยกระดับการเดินทางให้กับประชาชนได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย รวมทั้งรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม การค้า และการลงทุนของชุมชมเมือง เพื่อพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวไปสู่ประตูเศรษฐกิจยังประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาคอื่นในอนาคต
3. โครงการก่อสร้างถนนสาย ก1, ข และ ค1 ผังเมืองรวมเมืองตราด จังหวัดตราด ระยะทาง 8.132 กิโลเมตร งบประมาณทั้งสิ้น 914.8 ล้านบาท เป็นโครงการที่จะช่วยยกระดับมาตรฐานการเดินทาง การขนส่งสินค้าของประชาชนให้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น แก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในตัวเมือง เชื่อมโยงโครงข่าย
การคมนาคมระหว่าง ทล.3 กับ ทล.318 (เลี่ยงเมืองด้านเหนือ) พร้อมรองรับการขยายสายทาง เพื่อยกระดับการค้าและการท่องเที่ยวเชื่อมประเทศกัมพูชาในอนาคต
4. โครงการก่อสร้างถนนสายส่วนต่อขยายถนนเฉลิมพระเกียรติ (ตอนที่ 1) จังหวัดนครศรีธรรมราช ระยะทาง 5.500 กิโลเมตร งบประมาณทั้งสิ้น 613.48 ล้านบาท ก่อสร้างให้เป็นถนนวงแหวน เพื่อบรรเทา และแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในตัวเมืองนครศรีธรรมราช โดยใช้ถนนสายดังกล่าวเป็นถนนเลี่ยงเมือง พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ทั้งด้านที่อยู่อาศัย และการพาณิชยกรรม ตลอดจนรองรับการขยายตัว และการเติบโตของเมืองในอนาคตอีกด้วย
5. โครงการก่อสร้างถนนสายส่วนต่อขยายถนนเฉลิมพระเกียรติ (ตอนที่ 2) จังหวัดนครศรีธรรมราช ระยะทาง 5.280 กิโลเมตร งบประมาณทั้งสิ้น 819.6 ล้านบาท เป็นการยกระดับการเดินทางในพื้นที่นอกเมืองนครศรีธรรมราชให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งถนนในพื้นที่เมืองเป็นถนนที่มีความคับแคบ ไม่สามารถปรับปรุงและขยายถนนเดิมได้ จึงก่อสร้างส่วนต่อขยายถนนเฉลิมพระเกียรติ (ตอนที่ 2) เป็นถนนวงแหวนเลี่ยงเมืองด้านทิศตะวันออก เพื่อบรรเทาการจราจรติดขัดภายในตัวเมือง พร้อมรองรับการเจริญเติบโต
และการขยายตัวของเมืองในอนาคต
โอกาสนี้มีนายผดุงศักดิ์ สรุจิกำจรวัฒนะ รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ด้านดำเนินงาน) เป็นผู้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ และแนวทางในการดำเนินงานก่อสร้าง รวมถึงเป็นผู้แทนกรมทางหลวงชนบทในการลงนามในสัญญา มีนายเขตโสภณ โภคารัตนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง และนายยงยุทธ์ เพ็งเมือง ผู้อำนวยการสำนักก่อสร้างทาง ลงนามเป็นพยาน พร้อมทั้งมีผู้แทนกรมทางหลวงชนบท และผู้แทนบริษัทร่วมเป็นสักขีพยานและเข้าร่วม ณ ศูนย์ราชการสะดวก (GECC) กรมทางหลวงชนบท (บางบัว)