Menu
home
>>
กรมทางหลวงชนบท สร้างถนนเข้าโครงการหลวงขุนห้วยแห้ง จ.เชียงใหม่ คืบหน้ากว่า 11 % เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีในการเดินทางให้ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนและอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ คาดแล้วเสร็จในปี 2567
กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1009 – ศูนย์วิจัยโครงการหลวงขุนห้วยแห้ง ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสนับสนุนภารกิจมูลนิธิโครงการหลวง ยกระดับการคมนาคมส่งเสริมเศรษฐกิจการขนส่งทางการเกษตร เป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
เนื่องจากพื้นที่ของถนนสายดังกล่าว เดิมเป็นถนนผิวดินตามธรรมชาติ ช่องทางการจราจรมีลักษณะที่คับแคบ ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูง ทั้งยังเป็นพื้นที่ห่างไกล ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน การเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เกษตรกรไม่สามารถลำเลียงผลผลิตออกสู่ตลาดได้ตามกำหนด ทำให้ประชาชนสูญเสียโอกาสทางการค้า ทช. จึงได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสาย ทล.1009 – ศูนย์วิจัยโครงการหลวงขุนห้วยแห้ง ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทางรวม 15.148 กิโลเมตร โดยแบ่งการดำเนินงานเป็น 2 สายทาง ประกอบด้วย
สายที่ 1 มีจุดเริ่มต้นโครงการ กม.ที่ 0+000 (บริเวณทางเข้าบ้านหนองหล่ม) ถึง กม.ที่ 14+650 (บริเวณขุนห้วยแห้ง) และสายที่ 2 มีจุดเริ่มต้นโครงการ กม.ที่ 0+002 ถึง กม.ที่ 0+500 (บริเวณหน่วยพันธุ์พืช มูลนิธิโครงการหลวง) ก่อสร้างเป็นผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็กขนาด 2 ช่องจราจร ความกว้าง 4 – 6 เมตร สะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก 1 แห่ง พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย เครื่องหมายจราจร และระบบรางระบายน้ำบริเวณสองข้างทาง ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 122.876 ล้านบาท ปัจจุบันการก่อสร้างมีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 11 ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงานในส่วนของงานดิน งานพื้นทางหินคลุก และงานผิวทางคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งโครงการดังกล่าวคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2567
เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเดินทางให้มีความสะดวกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ป้องกันไม่ให้พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากการขนส่ง เป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน รวมถึงช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ชุมชน และอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ได้อีกทางหนึ่งด้วย

อื่นๆ

Skip to content