Menu
home
>>
กรมทางหลวงชนบท รายงานสายทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย สัญจรผ่านไม่ได้ 14 สายทาง จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมฟื้นฟูสายทาง เปิดการสัญจรหลังน้ำลด เพื่ออำนวยความสะดวก ปลอดภัยในการสัญจรให้กับประชาชน
(27 ก.ค. 68) นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ขณะนี้พบถนนทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณฝนที่ตกหนักสะสมอย่างต่อเนื่อง ปิดการสัญจรของประชาชนมีจำนวนลดลงกว่าวันก่อน แต่ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนประชาชนบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงวันที่ 26 – 28 ก.ค. 68 ให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม จึงได้เน้นย้ำและกำชับไปยังสำนักงานทางหลวงชนบท และแขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้คงเฝ้าติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ส่วนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอยู่ในขณะนี้ก็ให้จัดชุดลาดตระเวนสายทางอำนวยความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ที่น้ำท่วมหนักสัญจรผ่านไม่ได้ และสัญจรผ่านได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ใช้ทาง รวมถึงให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนในสถานการณ์เช่นนี้จนกว่าจะคลี่คลายกลับสู่ภาวะปกติ
สำหรับถนนทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบในวันนี้ (27 ก.ค. 68 เวลา 09.30 น. พบในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน แพร่ พะเยา เชียงราย เชียงใหม่ ตาก และอุบลราชธานี จำนวน 35 สายทาง สัญจรผ่านได้ 21 สายทาง และสัญจรผ่านไม่ได้ 14 สายทาง ซึ่งเส้นทางที่สัญจรผ่านไม่ได้แบ่งตามรายจังหวัดได้ ดังนี้
จังหวัดน่าน จำนวน 4 สายทาง ดังนี้
1. ถนนทางหลวงชนบทสาย นน.4020 แยก ทล.1168 (กม.ที่ 0+700) – บ้านห้วยสอน อำเภอภูเพียง, เวียงสา จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 15+600 และ ช่วง กม.ที่ 31+600 – 32+200)
2. ถนนเชิงลาดสะพานดู่ใต้พัฒนา (สาย นน.007) อำเภอเมือง จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 1+300)
3. ถนนเชิงลาดสะพานประชาร่วมรัฐพัฒนา (สาย นน.014) อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+400)
4. ถนนเชิงลาดสะพานกองควายประชาพัฒนา (สาย นน.016) อำเภอเมือง จังหวัดน่าน (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 1+000)
จังหวัดแพร่ จำนวน 4 สายทาง ดังนี้
1. ถนนทางหลวงชนบทสาย พร.4013 แยก ทล.1125 (กม.ที่ 28+400) – บ้านท่าเดื่อ อำเภอลอง, วังชิ้น จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 20+050 – 20+350 และ ช่วง กม.ที่ 27+725 – 27+800)
2. ถนนทางหลวงชนบทสาย พร.4012 แยก ทล.1154 (กม.ที่ 42+425) – แก่งเสือเต้น อำเภอสอง จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 2+100 – 3+500)
3. สะพานข้ามแม่น้ำยม (สาย พร.001) อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 0+485 – 1+185)
4. ถนนเชิงลาดสะพานวังธง (สาย พร.003) อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+743)
จังหวัดพะเยา จำนวน 3 สายทาง ดังนี้
1. ถนนทางหลวงชนบทสาย พย.4029 แยก ทล.1148 (กม.ที่ 95+225) – โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริบ้านหนองห้า อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 8+900 – 9+000 , ช่วง กม.ที่ 10+850 – 10+950 , ช่วงกม.ที่ 11+700 – 11+900 และ ช่วง กม.ที่ 12+900 – 13+000)
2. ถนนเชิงลาดสะพานแม่น้ำยม (สาย พย.002) อำเภอปง จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 1+100)
3. ถนนเชิงลาดสะพานข้ามแม่น้ำยม (สาย พย.003) อำเภอปง จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 0+100 – 0+300)
จังหวัดตาก จำนวน 2 สายทาง ดังนี้
1. ถนนทางหลวงชนบทสาย ตก.3002 แยก ทล.105 (กม.ที่ 4+000) – บ้านวังแก้ว อำเภอแม่สอด, แม่ระมาด จังหวัดตาก (ช่วง กม.ที่ 11+950 – 12+000 , ช่วง กม.ที่ 12+100 – 12+150 และ ช่วง กม.ที่ 16+500 – 16+550)
2. ถนนทางหลวงชนบทสาย ตก.3006 แยก ทล.104 (กม.ที่ 9+025) – บ้านวังผา อำเภอแม่สอด, แม่ระมาด จังหวัดตาก (ช่วง กม.ที่ 7+290 – 7+300)
จังหวัดเชียงราย จำนวน 1 สายทาง ได้แก่
1. ถนนทางหลวงชนบทสาย ชร.4008 แยก ทล.1020 (กม.ที่ 87+200) – บ้านศรีสะอาด อำเภอขุนตาล, พญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย (ช่วง กม.ที่ 4+100 – 4+500)
อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้าย ในส่วนสายทางที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ให้เร่งจัดเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรเข้าดำเนินการฟื้นฟู และซ่อมแซมสายทาง เพื่อคืนเส้นทางการจราจรโดยเร็ว พร้อมทั้งตรวจสอบระบบไฟฟ้าควบคุมการจราจร ไฟฟ้าแสงสว่าง และตู้ควบคุม ตลอดจนเข้าจัดการเส้นทาง ทำความสะอาดให้เรียบร้อย เพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชน ซึ่งขณะนี้ในส่วนของจังหวัดพะเยา และจังหวัดแพร่ บางสายทางที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เจ้าหน้าที่ของแขวงทางหลวงชนบทได้เข้าดำเนินการสำรวจสายทาง และฟื้นฟูในส่วนที่ชำรุดเสียหายจากการกัดเซาะของน้ำบริเวณผิวทางเป็นที่เรียบร้อย รวมถึงล้างทำความสะอาดโคลน เก็บเศษกิ่งไม้ที่ตกค้างบนสายทาง เตรียมพร้อมเปิดใช้งานตามปกติให้กับประชาชนต่อไป ทั้งนี้ หากประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวงชนบท หรือแขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ หรือสายด่วน กรมทางหลวงชนบท 1146

อื่นๆ

กรมทางหลวงชนบท สร้างถนน 4 เลน แยก ทล.4103 เลียบคลองชลประทาน ถึง ถนนพุทธภูมิ จ.นครศรีธรรมราช คืบหน้าแล้วกว่า 75% เตรียมเปิดใช้ต้นปี 2569 มุ่งแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด เพิ่มศักยภาพการเดินทางเข้า – ออกตัวเมืองนครศรีธรรมราช พร้อมรองรับการขยายตัวของเมืองในอนาคตอย่างยั่งยืน

อธิบดีกรมทางหลวงชนบท พร้อมด้วย รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามผลการดำเนินงานโครงการสำคัญตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ครั้งที่ 3/2568

Skip to content