กรมทางหลวงชนบท (ทช.) มีมาตรการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์อุทกภัย โดยแบ่งการเตรียมความพร้อมรับมือเป็น 3 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 ก่อนเกิดเหตุ ทช. จะเริ่มดำเนินการกำจัดสิ่งกีดขวางทางระบายน้ำ เพื่อเพิ่มช่องทางระบายน้ำ สำรวจ ตรวจสอบ และตัดแต่งกิ่งไม้แห้งที่อาจตกหล่น หรือล้มทับกีดขวางการจราจร เตรียมพร้อมทางด้านบุคลากร และทบทวนแนวทางปฏิบัติในการรับมือสถานการณ์ รวมทั้งเตรียมความพร้อมด้านเครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์ต่าง ๆ
ระยะที่ 2 ขณะเกิดเหตุ ทช. จะต้องดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น รวมถึงติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยงเพื่อให้ทราบถึงสายทางที่ผ่านได้และผ่านไม่ได้ หรือป้องกันน้ำท่วมช่องทางจราจรสายหลัก โดยนำวัสดุ อุปกรณ์ เช่น นำกระสอบทรายมากั้น เพื่อป้องกันน้ำท่วมสายทาง หากเกิดดินโคลนถล่ม จะนำเครื่องจักรเข้าเปิดถนนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน หรือในกรณีสะพานขาดจะติดตั้งสะพานเบลีย์ เพื่อเชื่อมเส้นทางโดยเร็วที่สุด อีกทั้งบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อรับส่งประชาชนในกรณีที่ระดับน้ำสูงจนรถเล็กสัญจรผ่านไม่ได้
ระยะที่ 3 หลังจากระดับน้ำลดลงจะดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้น เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้ภายใน 7 วัน พร้อมทั้งเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อออกแบบ และประมาณราคา พร้อมภาพถ่ายสภาพความเสียหายเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการฟื้นฟูต่อไป
ปัจจุบัน ทช. ได้ดำเนินการฟื้นฟูสายทางที่ได้รับผลกระทบในบางพื้นที่หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย อาทิ แขวงทางหลวงชนบทน่าน ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการล้างทำความสะอาดสายทางและสะพาน เพื่อคืนสภาพผิวการจราจรให้กับประชาชนบนถนนสาย นน.3007 อำเภอท่าวังผา, ถนนสาย นน.4020 อำเภอภูเพียง, เวียงสา สะพานชุมชน นน.014 สะพานประชาร่วมรัฐพัฒนา อำเภอเวียงสา และสะพานชุมชน นน.021 สะพานหัวเวียงเหนือ – น้ำต้วนพัฒนา อำเภอภูเพียง ในส่วนของแขวงทางหลวงชนบทแพร่ เจ้าหน้าที่เข้าทำความสะอาดสายทาง คืนผิวจราจรให้กับประชาชนบนถนนสาย พร.5019 อำเภอสูงเม่น, เด่นชัย, ถนนสาย พร.4013 อำเภอวังชิ้น และ พร.4008 อำเภอวังชิ้น ขณะที่จังหวัดพะเยา น้ำได้ลดลงเกือบทุกสายทาง ประชาชนสามารถสัญจรผ่านได้แล้ว
ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือ ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ หรือโทรสายด่วน กรมทางหลวงชนบท 1146
