Menu
home
>>
กรมทางหลวงชนบท ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝนอย่างใกล้ชิด พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์และดูแลอำนวยความสะดวกให้ประชาชนใช้เส้นทางได้อย่างปลอดภัย
กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ติดตามแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ซึ่งจากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์ว่าในช่วงเดือนสิงหาคม 2566 บริเวณประเทศไทยจะมีฝนตกชุกหนาแน่นเพิ่มขึ้นอีก โดยส่วนใหญ่จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 80 ของพื้นที่ ให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลและพื้นที่ลุ่ม โดยอธิบดีกรมทางหลวงชนบทได้มีความห่วงใยประชาชนที่ใช้เส้นทางในการสัญจร จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานในส่วนภูมิภาค ซึ่งประกอบด้วยสำนักงานทางหลวงชนบท แขวงทางหลวงชนบท หมวดบำรุงทางหลวงชนบท ติดตามรายงานสถานการณ์และลงพื้นที่ดูแลเส้นทางจราจรให้กับประชาชน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชนได้ทันที ซึ่งได้กำหนดแนวทางการเตรียมความพร้อม
รับมือเป็น 3 ระยะ ดังนี้
1. ก่อนเกิดเหตุ
– ทำความสะอาดช่องระบายน้ำ ตัดหญ้า กำจัดวัชพืชที่ขวางทางระบายน้ำ ท่อลอด สะพาน
– เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ สะพานเบลีย์ สนับสนุนยานพาหนะ อุปกรณ์การขนส่ง พร้อมสนับสนุนการอพยพเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยหรือ
พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดเหตุอุทกภัย เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัย
– จัดเตรียมป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทาง หลักนำทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน กรณีน้ำท่วมสูง ถนนหรือสะพานขาด ไม่สามารถสัญจรไปมาได้
– ตัดแต่งกิ่งไม้ในเขตทางหลวงชนบท เพื่อป้องกันกิ่งไม้ตกหล่น หักโค่น เมื่อเกิดพายุ หรือ ลมพัดรุนแรง
2. ขณะเกิดภัย
– บริหารจัดการเส้นทางและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน กรณีเส้นทางผ่านไม่ได้ ให้จัดหาทางเลี่ยงพร้อมทั้งประสานกับหน่วยงานของจังหวัดในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที เมื่อได้รับการร้องขอ
– กรณีถนนหรือสะพานขาด ให้ดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้นให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางสัญจรไปมาได้ชั่วคราว เช่น วางสะพานเบลีย์ถมดินคอสะพาน ถมวัสดุคอสะพานฯ
– รายงานข้อมูลสายทางที่ประสบภัยพิบัติพร้อมภาพถ่ายผ่านระบบบริหารจัดการงานอุทกภัยกรมทางหลวงชนบท (FMS) และปรับปรุงข้อมูลจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
– กรณีต้นไม้หักโค่น ปิดทับหรือกีดขวางเส้นทาง ให้รีบนำเครื่องมือเครื่องจักรเข้าดำเนินการทันทีเพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรผ่านได้
– เสนอโครงการที่ประสบอุทกภัยต่อที่ประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติของแต่ละจังหวัด
– เข้าพื้นที่สำรวจความเสียหายประมาณการค่าซ่อมแซมเบื้องต้น และเตรียมเข้าซ่อมทันที เมื่อเข้าสู่ภาวะปกติให้สามารถเปิดการจราจรชั่วคราวได้
– หน่วยงานในพื้นที่ประสานกับหน่วยงานราชการต่าง ๆ รวมถึงหน่วยงานทหารในพื้นที่ เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการช่วยเหลือประชาชน ตลอดจนรายงานข้อมูลสายทางที่ประสบอุทกภัยให้ผู้บริหารได้รับทราบจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
3. หลังเกิดภัย
– หลังจากเข้าสู่ภาวะปกติ ให้ดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้น เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้ภายใน 7 วัน และดำเนินการสำรวจ ออกแบบ ประมาณราคา พร้อมภาพถ่ายสภาพความเสียหายหลังน้ำลด เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณในการฟื้นฟูต่อไป
ทช. จะติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ทุกพื้นที่ทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด พร้อมเน้นย้ำหน่วยงานในพื้นที่ ให้ปฏิบัติตามมาตรการรับมืออุทกภัย ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักร อุปกรณ์ เข้าประจำจุดพื้นที่เสี่ยง
ไว้ล่วงหน้าเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนได้ในทันที รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนโปรดระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษ และโปรดสังเกตป้ายเตือน ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุได้ที่สำนักงานทางหลวงชนบท และแขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ หรือสายด่วน กรมทางหลวงชนบท 1146

อื่นๆ

วันที่ 13 มกราคม 2568 สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 2 (สระบุรี) ได้จัดประชุมการมีส่วนร่วมภาคประชาชน ณ ศาลาเอนกประสงค์ โรงเรียนบ้านหนองปล้อง หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะรัง อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี เพื่อชี้แจงรายละเอียดโครงการ ซ่อมสร้างผิวทางแอสฟัลต์คอนกรีต (โดยวิธี Pavement In – Place Recycling) งานบำรุงถนนสาย ลบ.4069 แยกทางหลวงหมายเลข 2260 – บ้านซับลังกา อ.ลำสนธิ, ชัยบาดาล จ.ลพบุรี บริเวณช่วง กม.ที่ 1+000 – กม.ที่ 5+500 และ กม.ที่ 8+290 – กม.ที่ 9+780 รวมระยะทาง 5.990 กิโลเมตร โดยมี นายตระกูล คำดี และนางสาวปนัดดา ประกัน เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียด พร้อมรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะจากประชาชนในพื้นที่ และนำไปวางแผนใช้ในการดำเนินการก่อสร้าง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้เส้นทางและเป็นไปตามนโยบายของกรมทางหลวงชนบท

Skip to content