กรมทางหลวงชนบท ร่วมกับ JICA ถ่ายทอดองค์ความรู้โครงการ SDGs การสำรวจนำร่องร่วมกับภาคเอกชนเพื่อการก่อสร้างถนนแอสฟัลท์ติกคอนกรีตที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในถนนชนบทประเทศไทย ณ สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 2 (สระบุรี)

กรมทางหลวงชนบท ร่วมกับ JICA ถ่ายทอดองค์ความรู้โครงการ SDGs การสำรวจนำร่องร่วมกับภาคเอกชนเพื่อการก่อสร้างถนนแอสฟัลท์ติกคอนกรีตที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในถนนชนบทประเทศไทย ณ สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 2 (สระบุรี)

กรมทางหลวงชนบท (ทช.) โดยสำนักบำรุงทาง ร่วมกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) จัดโครงการ SDGs การสำรวจนำร่องร่วมกับภาคเอกชนเพื่อการก่อสร้างถนนแอสฟัลท์ติกคอนกรีตที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในถนนชนบทประเทศไทย โดยในวันนี้ (15 มี.ค. 66) นายทินกร คุณสมิตปัญญา วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ (ด้านบำรุงทาง) เป็นประธานกล่าวเปิดงาน ณ ห้องประชุมผาไทร็อค สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 2 (สระบุรี) สำหรับโครงการดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 15 มีนาคม 2566 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการรีไซเคิลผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตในงานซ่อมบำรุงด้วยเครื่องจักร ASRR – construction method ที่ใช้ซ่อมบำรุงถนนขนาดเล็กหรือในชนบทที่แตกร้าว เป็นหลุมบ่อ สามารถเคลื่อนย้ายเครื่องจักรได้สะดวก เหมาะสำหรับพื้นที่ชนบท ซึ่งสามารถดำเนินการรีไซเคิลผิวถนนเดิมให้นำกลับมาใช้ใหม่ ณ บริเวณพื้นที่ซ่อมบำรุงได้โดยไม่ต้องขนส่งวัสดุมาจากที่อื่น ภายในงานยังมีเจ้าหน้าที่จาก JICA บรรยายรายละเอียดการใช้เครื่องมือและสาธิตการใช้เครื่องจักร ASRR รวมทั้งมีกิจกรรมทดสอบเครื่อง ASRR โดยการนำแอสฟัลท์ติกคอนกรีตที่อยู่หน้างานมาผสมพร้อมรีไซเคิล ณ ถนนทางหลวงชนบทสาย สบ.2036 และ สบ.5056 จังหวัดสระบุรี

ทั้งนี้ วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ ได้สอบถามและแสดงความคิดเห็นการใช้เครื่องจักร ASRR รวมถึงคุณภาพของยางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตที่ผ่านการรีไซเคิลด้วยเครื่อง ASRR พร้อมทั้งสั่งการให้เก็บกลุ่มตัวอย่างของวัสดุไปทดสอบคุณภาพ เพื่อให้เหมาะสมและคุ้มค่าต่อการใช้งานบนถนนของกรมทางหลวงชนบทให้มากที่สุด สำหรับการดำเนินโครงการในครั้งนี้มีนายวิทย์ วรวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 2 พร้อมผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทในสังกัด ผู้แทนจากสำนักงานทางหลวงชนบท เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับและเข้าร่วมงาน โดยมีนายโกศล จันมนฑา ผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานบำรุงทาง สำนักบำรุงทาง เป็นผู้นำคณะ JICA ลงพื้นที่